ศัลยกรรมยกหางตา
(Foxy Eyes)
หน้าแรก / บริการคลินิกเสริมความงาม / เสริมหน้าอก (Breast Augmentation)
เสริมหน้าอก Breast Augmentation
สวย ปลอดภัย แผลเล็ก ด้วยเทคนิคเสริมหน้าอกส่องกล้อง
HIGHLIGHTS
Breast Augmentation เป็นการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทรงสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นบล็อก เพิ่มความมั่นใจเสริมบุคลิกภาพ ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง
ชมวิดีโอ ‘หมอเอิร์ธ’ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
ที่ BLS Surgery Center
หัวข้อที่น่าสนใจ
เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) หรือการทำหน้าอก ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้เทคนิคและวิธีการผ่าตัดมีหลากหลายมากขึ้น แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเสริมหน้าอก มาดูกันว่าการเสริมหน้าอก คืออะไร? เหมาะกับใคร? ตำแหน่งการวางซิลิโคนควรวางชั้นไหน? เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ ที่เคยได้ยินบ่อยๆ คืออะไร? การเลือกแผลผ่าตัดตำแหน่งไหนดีที่สุด? การเลือกซิลิโคน เสริมหน้าอก พักฟื้นกี่วัน? เสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปี? วิธีการดูแลและข้อห้ามหลังเสริมอกต่างๆ และที่สำคัญเสริมหน้าอกที่ไหนดี? ที่ปลอดภัย ควรสังเกตจากอะไร? คลินิก เสริมหน้าอกที่ไหน? เสริมหน้าอก ราคาคุ้มค่า ติดตามได้จากบทความนี้เลย
ก่อนที่จะตัดสินใจเสริมหน้าอก ต้องเริ่มจากสังเกตตัวเองในส่วนที่ไม่มั่นใจ เช่น ขนาดของหน้าอก ความหย่อนคล้อย หรือหน้าอกไม่เท่ากัน เมื่อรู้ปัญหาแล้ว ต่อไปคือหาทางแก้ไข ส่วนใหญ่แล้วหากคนไข้มาด้วยปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย แพทย์จะแนะนำวิธีการศัลยกรรมหน้าอก ยกกระชับหน้าอก (Mastopexy) ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถลดขนาดหน้าอก (Reduction mammaplasty) รวมถึงการเสริมร่วมกับการยกกระชับหน้าอก (Augmentation mastopexy) ได้ด้วย แต่หากคนไข้มาด้วยความต้องการที่จะเพิ่มขนาดหน้าอก จากการมีขนาดหน้าอกเล็ก หรือมีลักษณะหน้าอกแบน แพทย์จะแนะนำการเสริมหน้าอก (Breast Augmentation)
เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) คืออะไร?
การศัลยกรรมเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการผ่าตัดเพื่อให้คนไข้มีหน้าอกขนาดใหญ่ขึ้น ทรวงอกมีความอวบอิ่ม ทำให้รูปร่างได้สัดส่วน มีส่วนโค้งเว้าที่สวยงามมากขึ้น ช่วยเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ ช่วยแก้ปัญหาขนาดหน้าอกเล็กด้วยลักษณะทางพันธุกรรม แก้ไขหน้าอกไม่เท่า ไม่สมดุลกัน หรือเต้านมมีการสูญเสียปริมาตรไปหลังลดน้ำหนักหรือให้นมบุตร หรือการเสริมหน้าอกภายหลังการตัดเต้านมของคนไข้ที่รักษามะเร็งเต้านม ก็สามารถทำได้เช่นกัน
เทคนิคเสริมหน้าอกส่องกล้อง
การเสริมหน้าอกส่องกล้อง เป็นเทคนิคการศัลยกรรมเสริมหน้าอกใหม่ล่าสุด โดยใช้วิธีการส่องกล้อง ด้วยการเปิดแผลที่มีขนาดเล็กมากๆ เพื่อสอดกล้องเข้าไป แพทย์จะสามารถมองเห็นบริเวณผ่าตัดของคนไข้ได้ทั้งหมดผ่านจอมอนิเตอร์ ช่วยให้เกิดความแม่นยำในการเลาะโพรง เพื่อวางซิลิโคนได้พอดีกับตัวคนไข้มากขึ้น และยังช่วยให้แพทย์สามารถห้ามเลือดได้ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแทรกซ้อนหลังเสริมอก เช่น พังผืดหดรัด ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยให้แผลเล็ก ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานอีกด้วย
ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้อง
- แผลเล็กลง เนื่องจากแพทย์สามารถมองบริเวณผ่าตัดผ่านกล้องได้ จึงไม่จำเป็นต้องลงแผลใหญ่
- แม่นยำสูงในการเลาะโพรงเพื่อวางซิลิโคน ทำให้โพรงพอดีตัวคนไข้และพอดีกับซิลิโคนมากที่สุด
- ห้ามเลือดได้อย่างแม่นยำผ่านกล้อง ลดโอกาสเกิดลิ่มเลือด และลดการทำลายเส้นประสาท
- ลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืดหดรัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่ต้องนวดหน้าอกหลังทำ แบบเทคนิคเสริมหน้าอกทั่วไป
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง ฟื้นตัวไว ไม่ต้องมีสายเดรน
ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง ประจำ BLS Surgery Center
ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย
ข้อมูลการผ่าตัด
เวลาผ่าตัด
2 ชั่วโมง
การวางยา
ดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์
ตัดไหม
1 สัปดาห์
ระยะเวลาพักฟื้น
1 สัปดาห์
ระยะเวลาของผลลัพธ์
10-20 ปี
เทคนิคการเสริมหน้าอก
เสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ
เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ ผลข้างเคียงน้อย เจ็บน้อย ผ่าตัดง่าย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แต่มีโอกาสเกิดพังผืด หรือปัญหานมแฝดได้ เมื่อเสริมขนาดใหญ่อาจทำให้เห็นขอบของซิลิโคน ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิธีที่ไม่นิยมแล้ว
เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ
เหมาะกับคนที่เนื้อหน้าอกน้อย ทำให้หน้าอกเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย และเป็นธรรมชาติ โอกาสที่หน้าอกจะผิดรูป หรือเกิดพังผืดจะน้อยกว่ามาก แต่การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อใช้เวลาในการพักฟื้นนาน และต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมน้อยลง เพราะอาจพบปัญหาซิลิโคนขยับได้ เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ เช่น เวลาไปฟิตเนส เป็นต้น
เสริมหน้าอก Dual Plane ที่ BLS Surgery Center
เป็นการเสริมกึ่งเหนือกล้ามเนื้อ และกึ่งใต้กล้ามเนื้อ (ระหว่างกล้ามเนื้อ) เป็นเทคนิคที่รวมข้อดีของการเสริมอกทั้งสองแบบไว้ด้วยกัน โดยซิลิโคนส่วนบนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อ ซิลิโคนส่วนล่างจะอยู่เหนือกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เห็นขอบซิลิโคนบริเวณเนินหน้าอก ด้านล่างมีความคล้อย โค้งมน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
ข้อดี-ข้อเสียของแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ละตำแหน่ง
แผลใต้ราวนม In breast fold (Inframammary incision)
แผลซ่อนอยู่ใต้ราวนม เป็นตำแหน่งที่ทำให้แพทย์สามารถใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่ และวางซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ
ข้อดี :
- แพทย์มองเห็นบริเวณผ่าตัดได้ชัดเจน
- ทำหัตถการได้ง่าย
- แก้ไขทรงหน้าอกได้ง่าย
- สามารถแก้ไขระดับราวนมไม่เท่ากันได้ด้วย
- ซ่อนแผลใต้ราวนม ทำให้มองไม่เห็นแผล
ข้อเสีย :
- เกิดแผลใต้ราวนม ซึ่งแพทย์จะทำการซ่อนแผลไว้ใต้ราวนม ทำให้เมื่ออยู่ในท่าทางปกติ จะไม่สามารถมองเห็นแผลได้
แผลรอบปานนม Around nipple (Periareolar incision)
แผลรอบปานนม เป็นการเปิดแผลบริเวณขอบลานนม และทำการใส่ซิลิโคนเข้าไป ซึ่งแผลตำแหน่งนี้ ปัจจุบันแพทย์ไม่นิยมใช้แล้ว เนื่องจากมีข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะรอบลานนมมีแบคทีเรียสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
ข้อดี :
- สามารถซ่อนแผลบริเวณขอบลานนมได้
ข้อเสีย :
- เสี่ยงติดเชื้อ
- อาจรบกวนเส้นประสาทรับความรู้สึก
- มองเห็นบริเวณในการผ่าตัดไม่ชัดเจน
- ใส่ซิลิโคนยาก
- มีข้อจำกัดในคนที่มีขนาดลานนมเล็กกว่า 4 cm
แผลใต้รักแร้ Underarm (Transaxillary incision)
แผลใต้รักแร้ เป็นการเปิดแผลที่ตำแหน่งใต้รักแร้ เมื่อเวลาผ่านไป จะมองเห็นแผลจะเป็นเส้นบางๆ แต่ปัจจุบันไม่นิยมแล้ว เพราะสังเกตเห็นแผลได้ง่าย หากคนไข้สวมชุดแขนกุด เกาะอก หรือบิกินี
ข้อดี :
- ไม่มีแผลที่หน้าอก
ข้อเสีย :
- แพทย์จัดการเนื้อหน้าอกได้ยาก
- เลาะโพรงเพื่อวางซิลิโคนยาก
- อาจเกิดภาวะโพรงไม่สม่ำเสมอ
- อาจเกิดปัญหาซิลิโคนไม่สมมาตรกัน
ซิลิโคนเสริมหน้าอก
ซิลิโคนเสริมหน้าอก คือ ซิลิโคนเจล (Silicone Gel) มีลักษณะเป็นถุง และเนื้อภายในเป็นเจล สำหรับรูปทรงที่นิยมจะเป็นทรงกลม และทรงกลมกึ่งหยดน้ำ โดยจะแยกตามขนาดและความนูนของซิลิโคน
ผิวสัมผัสซิลิโคนมี 3 แบบ
- ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth)
เนื้อซิลิโคนจะมีลักษณะใสมาก เปลือกซิลิโคนมีความบาง ให้สัมผัสนุ่มนวล การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวเรียบ ลดความเสี่ยงของการเกิดริ้วบนเต้านมได้ - ซิลิโคนผิวทราย (Textured)
เปลือกซิลิโคนมีความหนา ผิวสัมผัสหยาบกว่า แต่ปัจจุบันซิลิโคนผิวขรุขระ หรือผิวทรายไม่ได้รับความนิยมแล้ว - ซิลิโคนผิว Nano Surface
ผิวสัมผัสแบบ Nano Texture มีลักษณะผิวอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และยังช่วยยับยั้งการเกิดพังผืดหดรัดซิลิโคนได้ดี หลังทำช่วยให้ไม่เห็นคลื่นหรือขอบซิลิโคน หน้าอกจึงดูเป็นธรรมชาติ แม้ในคนไข้ที่มีผิวบาง
ซิลิโคน Mentor
ซิลิโคนสัญชาติอเมริกา รูปทรงธรรมชาติ ผิวซิลิโคนนิ่มและหนา ภายในเป็นเจลที่มีความหนาแน่นสูง รูปทรงคงรูป โอกาสซิลิโคนรั่วไหลน้อยมาก มีความปลอดภัยสูงเรื่องการแตกซึม ผ่านการรับรองและได้มาตรฐาน อย. ไทย และ US FDA
ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง ประจำ BLS Surgery Center
ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย
ซิลิโคน Motiva
ซิลิโคนสัญชาติอเมริกาที่ถูกพัฒนาให้มีข้อดีและส่งผลเสียต่อร่างการน้อย วัสดุซิลิโคนชนิดเจลใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดด้วยวิธี ergonomic ที่มีความยืดหยุ่นสูง ลดระยะเวลาในการผ่าตัด ได้ทรงที่สวยเป็นธรรมชาติ
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก
- คนไข้อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจแมมโมแกรมก่อนเสริมหน้าอก เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านม หากพบความผิดปกติ ควรรักษาให้หายก่อน จึงทำการเสริมหน้าอกได้
- งดดื่มน้ำและงดทานอาหาร ตั้งแต่เที่ยงคืนในวันผ่าตัด (อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด) เพื่อป้องกันการสำลักอาหารขณะผ่าตัด
- งดทาเล็บและตัดเล็บให้สั้นก่อนผ่าตัด เพราะตอนผ่าตัด แพทย์จะวัดค่าออกซิเจนที่ปลายนิ้ว หากเกิดปัญหาจะสามารถเห็นได้ทันทีจากปลายเล็บ
- อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อย งดทาโลชั่น และควรถอดเครื่องประดับทั้งหมดออก ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- หากทานยาละลายลิ่มเลือด ให้ปรึกษาแพทย์โรคประจำตัวก่อนหยุดยา และหยุดยา 7 วัน ก่อนผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัวให้แจ้งแพทย์ก่อนเสมอ และควบคุมให้อยู่ในภาวะคงที่ 1 เดือนก่อนผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาประจำ ในช่วงเช้าให้แจ้งแพทย์ในไลน์เลขาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อแพทย์จะได้ทำการจัดยาช่วงเช้าให้
- กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยปัจจุบัน แจ้งทราบอย่างน้อย 2 วันก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดวิตามิน อาหารเสริม 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ มีซิบหรือกระดุมด้านหน้า ไม่ควรใส่ชุดหรือกางเกงรัดรูป
- ไม่ควรขับรถมาเองคนเดียว ต้องมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด
- ควรมาเตรียมตัวก่อนเวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมง
- เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน หรือ Passport มาในวันผ่าตัด
- เตรียมจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป
อาการที่อาจเกิดหลังดมยาสลบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บคอ เสียงแหบ จะหายได้เองใน 1-3 วัน
สามารถทานยา เพื่อบรรเทาอาการได้ หรือหากมีอาการอื่นๆ แนะนำให้เข้ามาตรวจติดตามอาการกับแพทย์
การดูแลรักษาแผลผ่าตัด และข้อห้ามหลังเสริมหน้าอก
- หลังผ่าตัดไม่ควรนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง 2-4 สัปดาห์
- ตัดไหมหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ดูแลรักษาความสะอาดแผล ระวังอย่าให้เปียกน้ำ
- เลี่ยงการออกกำลังกาย 1 เดือน
- ใส่ Support Bra ตลอดเวลาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และใส่ตอนนอนจนครบ 3 เดือน *งดใส่บรามีโครงเหล็ก หรือฟองน้ำ 3 เดือน
- รับประทานยา เพื่อลดโอกาสเกิดการอักเสบและการติดเชื้อ
เสริมหน้าอกที่ไหนดี?
ศัลยกรรมหน้าอกที่ BLS Surgery Center ดีอย่างไร?
- หน้าอกสวย ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นบล็อก
แพทย์ BLS Surgery Center จะพิจารณาเลือกขนาดซิลิโคนและใช้ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานคุณภาพสูง รวมถึงใช้เทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เน้นความสวยงาม ดูเนียนเป็นธรรมชาติ คนไข้จึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี หน้าอกสวย วางใจความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวหน้าอกเป็นบล็อก และในระยะยาว ยังช่วยลดความเสี่ยงของการต้องกลับมาแก้หน้าอกได้อีกด้วย - ออกแบบทรงสวยรับกับสรีระของแต่ละเคส
ก่อนผ่าตัด คนไข้สามารถเข้ารับคำปรึกษา เพื่อสอบถามและพูดคุยถึงความต้องการ รวมถึงออกแบบทรงที่ชอบร่วมกับแพทย์ BLS Surgery Center ได้โดยตรง ซึ่งแพทย์จะประเมินขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสม และได้สัดส่วนรับกับสรีระของคนไข้ เพื่อให้การเสริมหน้าอกสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้แต่ละเคส และอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยมากที่สุด - ผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทาง
ทุกเคสของการเสริมหน้าอกที่ BLS Surgery Center จะได้รับการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง (Plastic Surgeon) ที่มีเทคนิคเฉพาะและมีความชำนาญในการผ่าตัด รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจถึงโครงสร้างร่างกายของผู้รับบริการเป็นอย่างดี สามารถประเมินความสวยงามที่อยู่ภายใต้ความปลอดภัยได้อย่างลงตัว ทำให้ได้รับผลการผ่าตัดที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ แผลผ่าตัดเนียนสวย แทบไม่เห็นแผลหลังทำ และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
- ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1
การเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องมีการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่ง BLS Surgery Center มีวิสัญญีแพทย์ประจำคลินิก เป็นผู้ดูแลให้ยาสลบคนไข้ที่ทำหัตถการเสริมหน้าอก คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่นี่ไม่เจ็บ และจะได้รับความปลอดภัยขณะผ่าตัดอย่างแน่นอน
- ใช้เทคนิคเสริมหน้าอกส่องกล้อง
BLS Surgery Center ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ความเนียนสวยของแผลผ่าตัด และการฟื้นตัวที่ดีกว่า ด้วยการเสริมหน้าอกวิธีใหม่ล่าสุดผ่านการส่องกล้อง ทำให้คนไข้ได้ผลลัพธ์การผ่าตัดที่ปลอดภัย เจ็บน้อย แผลเล็กขนาดเพียง 2-3 cm เท่านั้น ไม่ต้องมีสายเดรน ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดได้เป็นอย่างดี - ซิลิโคนมาตรฐาน ปลอดภัยสูง
แพทย์เลือกใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอกที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เป็นยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานจากอย. ไทย และ US FDA มีความยืดหยุ่น ทรงสวย ลดความเสี่ยงของซิลิโคนรั่วไหล ทำให้เกิดความปลอดภัยสูง และผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน - แผลเล็ก ฟื้นตัวไว พักฟื้นน้อย
ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ผู้ผ่าตัด การเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่ดีและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส การใช้วัสดุเสริมหน้าอกที่มีคุณภาพ ทุกองค์ประกอบช่วยส่งเสริมให้ผลลัพธ์การผ่าตัดออกมาดี คนไข้จะมีแผลเล็ก แผลเนียนสวย ฟื้นตัวไว ทำให้แทบไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเลย
รีวิว เสริมหน้าอกสวย เป็นธรรมชาติ แผลเล็ก
ที่ BLS Surgery Center
ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง ประจำ BLS Surgery Center
ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย
คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับการเสริมหน้าอก
A : หลังเสริมหน้าอก พักฟื้นเพื่อสังเกตอาการหลังผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง จนอาการเป็นปกติ คนไข้สามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ ซึ่งการใช้เทคนิคเสริมหน้าอกส่องกล้อง ที่ BLS Surgery Center แผลเล็ก ไม่มีสายเดรน เพราะแพทย์จะทำการห้ามเลือดจากภายในได้แม่นยำถึง 100% ทำให้ไม่ต้องระบายเลือด หลังผ่าตัดคนไข้จะแทบไม่รู้สึกเจ็บปวด สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และยังช่วยลดความเสี่ยงเกิดพังผืดได้ดี หลังจากพักผ่อนที่บ้านประมาณ 7 วัน ก็สามารถเข้าไปตัดไหมและติดตามผลตามที่คุณหมอนัดที่คลินิกได้
A : คุณหมอแนะนำการผ่าตัดเสริมหน้าอก แผลใต้ราวนม In breast fold (Inframammary incision) เป็นตำแหน่งที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะแพทย์จะสามารถมองเห็นบริเวณผ่าตัดได้ชัดเจน ทำหัตถการได้ง่าย ใส่ซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ แก้ไขทรงหน้าอกได้ง่าย และสามารถซ่อนแผลใต้ราวนมได้ ทำให้มองไม่ค่อยเห็นแผล จึงส่งผลดีต่อคนไข้อย่างมากมาย
A : แผลเสริมหน้าอกหาย ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในการสมานแผล ก็สามารถตัดไหมได้ ซึ่งแผลเสริมหน้าอกด้วยวิธีส่องกล้อง จะมีขนาดเล็กมาก เพียง 2-3 cm เท่านั้น เมื่อแผลหายสนิท รอยแผลจะค่อยๆ จางลงจนมีสีเดียวกับสีผิวของคนไข้ ทำให้แทบไม่เห็นแผลเลย ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน หน้าอกจะค่อยๆ ลงมาอยู่ในจุดที่พอดีตามที่ออกแบบไว้ ทั้งนี้ในแต่ละเคสจะใช้เวลาไม่เท่ากัน
A : ขณะแพทย์ทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก คนไข้จะไม่รู้สึกตัว เพราะทางคลินิกใช้การดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1 ทำให้คนไข้ปลอดภัยและไม่รู้สึกเจ็บเลย ในช่วงแรๆ ๆ หลังผ่าตัด คนไข้อาจรู้สึกปวดได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งการเสริมหน้าอกส่องกล้อง ไม่ต้องใส่สายเดรน ไม่มีเลือดออกหลังทำ แผลเล็ก ทำให้เจ็บน้อยมากๆ
A : การเสริมหน้าอก ที่ BLS Surgery Center มีโอกาสเกิดพังผืดหลังทำได้น้อย เพราะแพทย์จะมีเทคนิคที่ช่วยป้องกันการเกิดพังผืดหลังเสริม ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่สัมผัสซิลิโคนโดยตรง แต่ใช้กรวยเสริมหน้าอก เพื่อนำซิลิโคนเข้าสู่ร่างกายของคนไข้โดยตรง
- ขณะผ่าตัด แพทย์จะทำการติดเทปกันน้ำบริเวณยอดอกหรือหัวนม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงบริเวณผ่าตัดก็จะมีการเตรียมการปลอดเชื้อไว้อย่างรัดกุม
- มีการใช้ยาฆ่าเชื้อล้างโพรงหน้าอกก่อนเสริม
- เลือกการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ หรือเสริมหน้าอก Dual Plane (เสริมกึ่งเหนือกล้ามเนื้อ และกึ่งใต้กล้ามเนื้อ) ลดโอกาสการเกิดพังผืดได้
- การเลือกแผลผ่าตัดที่ทำให้หมอเห็นบริเวณผ่าตัดได้ชัดเจน ห้ามเลือดง่าย ลดโอกาสเกิดพังผืดในอนาคต และป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังทำได้
A : เสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปีนั้น ขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่ใช้เสริม ซึ่งปัจจุบันซิลิโคนยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานรุ่นใหม่ๆ นั้น ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ซิลิโคนมีความแข็งแรง ทนทาน แทบจะไม่มีการแตกหรือการรั่วของซิลิโคนเกิดขึ้นเลย ทำให้ผลลัพธ์ของการเสริมหน้าอกอยู่ได้นานถึง 20 ปีขึ้นไปเลยทีเดียว
ประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง ประจำ BLS Surgery Center
ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
หมอบีม & หมอเอิร์ธ คว้ารางวัลเลิศ ‘The Best Endoscopic Brow Lift And Facelift’
Endoscopic Brow Lift หรือการยกคิ้วด้วยการส่องกล้อง เป็นเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน...
เสริมจมูก ทำตาสองชั้น ยกคิ้ว เสริมคางที่ไหนดี Make Over พลิกลุคสะบัด สวยทุกสัดส่วน
ใครมีแพลนจะทำศัลยกรรม แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร จะแก้จมูก และ เสริมคางที่ไหนดี bls-surgerycenter มีคำตอบดีๆ มาฝาก
เสริมหน้าอกสวย เลือกซิลิโคนยังไงดี?
การเลือก ซิลิโคนหน้าอก แต่ละยี่ห้อ เสริมหน้าอกที่ไหนดี และเหมาะกับใครบ้าง BLS Surgery Centet มีคำตอบดีๆ มาฝาก...