จบทุกปัญหาความหย่อนคล้อย และริ้วรอยแห่งวัยด้วยการศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) ซึ่งเป็นการผ่าตัดดึงผิวหนังส่วนเกินออก ให้ผลลัพธ์เหนือกาลเวลา มอบความกระชับเต่งตึงแม้อายุเยอะ คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าราวกับคุณได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ก่อนจะตัดสินใจทำการ “ศัลยกรรมดึงหน้า” นั้น เรามาดูข้อควรรู้ที่ไม่ควรพลาดมาบอกต่อกัน
1. “ศัลยกรรมดึงหน้า” คือการผ่าตัดเพื่อนำผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อยออก
ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจก่อนว่า การศัลยกรรมดึงหน้าก็คือ “การผ่าตัด” ที่ต้องนำผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อยออก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลให้ลึกถึงชั้นผิวหนัง SMAS ความยาวแผลตั้งแต่ขมับถึงหน้าดูตามแนวผม เพื่อดึงเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อผิวชั้น SMAS ให้ตึง แล้วเย็บกับเนื้อเยื่อส่วนที่แข็งแรง จากนั้นแพทย์จะดึงผิวหนังส่วนเกินออกเพื่อตัดทิ้ง แล้วเย็บปิดบาดแผลซึ่ง
โดยปกติแล้ว “การผ่าตัด” มักจะทิ้งรอยแผลจากการเย็บปิดแผลไว้ ทำให้หลายคนกลัวการผ่าตัด โดยทาง BLS Surgery ก็คำนึงถึงปัญหานี้จึงได้คิดค้นเทคนิค Invisible Lock ขึ้นมา ซึ่งเป็นผ่าตัดแบบซ่อนแผลไว้ตรงแนวผม ทำให้หลังผ่าตัดถ้าสังเกตก็จะไม่เห็นรอยแผลหลังผ่าตัด
2. “ศัลยกรรมดึงหน้า” เป็นการผ่าตัดที่ต้องพักฟื้นและต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
อยากสวยต้องใช้เวลา ทุกการผ่าตัดต้องมีการพักฟื้นและระยะเวลาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบต่อชีวิตประจำวัน ขอแนะนำให้วางแผนเรื่องวันและเวลาการเข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้านะคะ โดยรายละเอียดระยะเวลาจะมีดังนี้
- ระยะเวลาในการผ่าตัด : ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
- ระยะเวลาในการพักฟื้น : 1 สัปดาห์ *ระหว่างพักฟื้นอาจมีอาการบวมช้ำ
- ระยะเวลาในการตัดไหม : 10 วันหลังจากผ่าตัด
- ระยะเวลาในการแสดงผลลัพธ์ : เห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือนขึ้นไปหลังการผ่าตัด และอยู่ได้นานถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของบุคคล
3. “ศัลยกรรมดึงหน้า” เป็นนวัตกรรมที่ให้มากกว่าการยกกระชับใบหน้า
สำหรับคนที่กังวลเรื่องความคุ้มค่า เนื่องจากการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เป็นศัลยกรรมเสริมความงามที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ในความจริงแล้วหากต้องการได้ผลลัพธ์ “การยกกระชับหน้า” ที่ดีที่สุดและอยู่ได้ยาวนาน เมื่อเทียบการผ่าตัดกับการใช้หัตถการหรือเครื่องสำอางแล้ว บอกเลยว่าคุ้มค่ากว่าแน่นอนค่ะ เพราะเป็นการจ่ายแค่ครั้งเดียวแต่ให้ผลลัพธ์นานถึง 10 ปี ซึ่งผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้ายังให้มากกว่าการกระชับด้วยไม่ว่าจะ ช่วยให้เรื่องของกรอบหน้า ลดริ้วรอย ผิวเรียบเนียน และลดอายุให้ใบหน้าลงถึง 10 ปี
4. “ศัลยกรรมดึงหน้า” การดึงหน้าแต่ละส่วน ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
การผ่าตัดยกกระชับหน้านั้น จะไม่ใช่แค่การเปิดแผลส่วนใดส่วนหนึ่ง แล้วจะสามารถดึงกระชับได้ตั้งแต่คิ้วจนถึงลำคอ เนื่องจากการดึงผิวส่วนเกินแต่ละส่วน จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันดังนี้
- ส่วนหน้าผาก : ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ปรับผิวให้ตึงและเรียบขึ้น
- ส่วนคิ้ว : ช่วยในเรื่องของปัญหาหนังตาตก ทำให้ดวงตาดูเปิดกว้างสดใสขึ้น
- ส่วนแก้ม : แก้ไขปัญหาแก้มห้อย ลดร่องแก้มหรือร่องน้ำมาก
- ส่วนลำคอ : ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นตรงลำคอมให้ตึงและกระชับเหมาะกับที่อายุมากการดึงให้หน้ากระชับส่วนเดียว อาจดูไม่สมดุลกันจึงต้องดึงลำคอให้ตึงด้วย
5. “ศัลยกรรมดึงหน้า” ผลลัพธ์น่ากลัวกว่าที่คิดหากไม่ได้ทำกับแพทย์เฉพาะทาง
การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการผ่าตัดลึกถึงชั้นผิวซึ่งประกอบไปด้วยเส้นประสาทมากมาย แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจึงต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้เรื่องผิวหนังโครงสร้างใบหน้ารวมไปถึงเส้นประสาทต่างๆ หากแพทย์ไม่ชำนาญอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดระหว่างผ่าตัดซึ่งยากที่จะแก้ไข และเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ผลลัพธ์จากการทำการผ่าตัดที่ผิดพลาด
- โดนเส้นประสาท มีผลทำให้ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
- เลือดคั่งในแผล ปวดและบวมช้ำมาก
- ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ
- แผลติดเชื้อเนื้อเยื่อตาย
เพื่อให้การผ่าตัดดึงหน้าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเกิดความเสี่ยงรวมไปถึงผลข้างเคียงที่น้อยที่สุด คนไข้ควรเลือกทำการผ่าตัดกับแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น โดยทาง BLS Surgery Center เองก็เป็นสถาบันด้านศัลยกรรมพลาสติกและความงาม ที่ก่อตั้งมาจากการต่อยอดความรู้เฉพาะทางของทีมแพทย์จากคลินิกดูแลและปรับรูปหน้า ที่มีประสบการณ์ดูแลด้านความงามให้คนไข้มามากกว่า 7 ปี ดูแลโดย หมอบีม พญ.คุณาภรณ์ ตั้งธนะวัฒน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและแพทย์เฉพาะทางต่อยอดศัลยกรรม
ดังนั้นหากคุณกำลังมีปัญหาความหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น ทำหัตถการยกกระชับใบหน้าแล้วไม่เห็นผล สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราก่อนได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูลและโปรโมชั่น
Call : 061-741-9369
Email : bls.surgery.center@gmail.com
FB : BLS Surgery Center
IG : BLS Surgery Center
Tiktok : @blssurgerycenter
Line : @bls.surgery