โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy ฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัด ด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100%

การดูแลหลังผ่าตัด ไม่ได้มีเพียงแค่รอแผลสมาน แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูระดับเซลล์ เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง รอยแผลจางอย่างรวดเร็ว และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลกอย่างโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) หรือที่หลายคนเรียกว่าโปรแกรมอุโมงค์ออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% เป็นเทคโนโลยีสำคัญในการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัด เร่งการหายของแผล ลดบวม และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่หลังการศัลยกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy คืออะไร?

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy คือ
โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy คือ

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy หรือ HBOT คือ เทคโนโลยีการบำบัดร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ ภายใต้แรงดันบรรยากาศที่สูงกว่าปกติ โดยผู้เข้ารับบริการจะอยู่ภายในอุโมงค์ออกซิเจน (Hyperbaric Chamber) ซึ่งเป็นห้องควบคุมแรงดันและความเข้มข้นของออกซิเจนอย่างละเอียด เพื่อให้ร่างกายสามารถรับออกซิเจนในระดับที่สูงกว่าปกติได้อย่างเต็มที่

ในสภาวะปกติ ออกซิเจนจะถูกลำเลียงโดยเม็ดเลือดแดงไปยังเซลล์ต่างๆ แต่เมื่ออยู่ในสภาวะแรงดันสูง ออกซิเจนบริสุทธิ์จะละลายเข้าสู่พลาสมาและของเหลวภายในร่างกายได้โดยตรง ช่วยให้เซลล์ที่อยู่บริเวณแผลหรือเนื้อเยื่อที่ขาดเลือดสามารถได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นทันที เป็นการเร่งกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy ช่วยอะไร?

  • เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด
    เมื่อออกซิเจนละลายในเลือดมากขึ้น เซลล์ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ ส่งผลให้กระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
  • เสริมการไหลเวียนเลือด
    เลือดนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วถึงมากขึ้น
  • ลดอาการบวม ช่วยให้ไม่ขาดเลือด
    ช่วยลดการอักเสบและบวมของเนื้อเยื่อ เพิ่มปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนที่บาดเจ็บ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ลดและยับยั้งการติดเชื้อ
    ออกซิเจนแรงดันสูง ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในร่างกาย
  • เสริมการสร้างเนื้อเยื่อและกระดูก
    ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้กระดูกที่แตกหรือหักเชื่อมติดกันได้เร็วขึ้น
  • ลดอันตรายจากสารพิษ
    มีส่วนช่วยขับสารพิษบางชนิดออกจากเลือดได้เร็วขึ้น ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสมองและอวัยวะสำคัญ
  • มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
    การได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์แรงดันสูง จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ลดการเสื่อมของเซลล์เดิม ทำให้ผิวพรรณสดใสและดูอ่อนวัย
โปรแกรม HBOT ช่วยอะไร
โปรแกรม HBOT ช่วยอะไร

หลักการทำงานของโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy

หลักการทำงานของโปรแกรม HBOT
หลักการทำงานของโปรแกรม HBOT

หัวใจของการรักษาด้วย HBOT อยู่ที่แรงดันบรรยากาศ ซึ่งจะถูกควบคุมให้อยู่ที่ประมาณ 1.5 เท่าของแรงดันบรรยากาศปกติ (ATA) ภายในอุโมงค์ออกซิเจนบริสุทธิ์ เมื่อเข้าสู่สภาวะนี้ ร่างกายของคนไข้จะได้รับออกซิเจนที่ละลายในเลือดปริมาณมากขึ้นกว่าปกติหลายเท่า

ความดันบรรยากาศ ระหว่างการทำโปรแกรม HBOT

ระหว่างการทำ HBOT ผู้เข้ารับการบำบัดจะอยู่ในห้องอุโมงค์ที่มีแรงดันสูงกว่าปกติประมาณ 2-3 เท่า คล้ายกับการอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 10-15 เมตร แต่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ ในช่วงแรกของการปรับแรงดัน อาจทำให้มีอาการคล้ายหูอื้อขณะขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดันภายในหูชั้นกลาง เจ้าหน้าที่ประจำคลินิกจะสอนวิธีปรับความดันในช่องหู เพื่อให้รู้สึกสบายระหว่างทำ เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง กลืนน้ำลายบ่อยๆ หรือการบีบจมูกแล้วเป่าลมออก (เทคนิค Valsalva maneuver)

เทคนิคการเคลียร์หู เมื่อทำโปรแกรม HBOT
เทคนิคการเคลียร์หู เมื่อทำโปรแกรม HBOT

ทำโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy หลังศัลยกรรม ดีอย่างไร?

สำหรับคนไข้ที่ทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็น ดึงหน้า ดึงคอ (Facelift & Necklift) เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) หรือปลูกผม (Hair Transplant) โปรแกรมนี้ถือเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ สามารถรับบริการหลังจากทำศัลยกรรม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

  • เพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนบริเวณแผลผ่าตัด
    กระตุ้นการสมานแผล ช่วยให้แผลผ่าตัดสมานไวขึ้น
  • ช่วยให้แผลศัลยกรรม หายเร็วขึ้น
    ออกซิเจนบริสุทธิ์จะเข้าไปเร่งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว
  • การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
    ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายทำงานดี ช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วขึ้น
  • ลดบวมและช้ำได้เร็วกว่า
    ช่วยลดการอักเสบ ลดของเหลวคั่งหลังการผ่าตัดได้ดี โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำตัว
  • ลดความเสี่ยงของแผลติดเชื้อ
    ออกซิเจนช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ลดอัตราการเกิดแผลติดเชื้อ
  • ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสดใส ดูอ่อนเยาว์
    ผิวดูสุขภาพดี มีออร่า เพราะเซลล์ได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่
โปรแกรม HBOT หลังศัลยกรรม ดียังไง
โปรแกรม HBOT หลังศัลยกรรม ดียังไง

โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy เหมาะกับใครบ้าง?

โปรแกรม HBOT เหมาะกับใคร
โปรแกรม HBOT เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับ

  • คนที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมทุกประเภท
  • คนที่มีบาดแผลเรื้อรัง หรือแผลหายช้า
  • นักกีฬา ที่ต้องการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการใช้งานหนัก
  • คนที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายในเวลาอันสั้น
  • คนที่มีปัญหาเลือดไหลเวียนไม่ดี เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยเบาหวาน
  • คนที่มีภาวะอ่อนเพลีย ร่างกายฟื้นตัวช้า ต้องการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
  • คนที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียนโลหิตและสมอง

ใครบ้างที่หมอไม่แนะนำให้รับบริการ

  • คนที่มีโรคปอดบางประเภท เช่น ภาวะถุงลมโป่งพอง ภาวะปอดรั่ว (Pneumothorax)
  • คนที่มีภาวะติดเชื้อในหู หรือไซนัสอักเสบ
  • คุณแม่ตั้งครรภ์
  • คนที่มีภาวะหวาดกลัวที่แคบ (claustrophobia) ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า
  • คนที่ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดบางกลุ่ม ต้องแจ้งแพทย์ก่อนเสมอ
ข้อห้ามในการทำโปรแกรม HBOT
ข้อห้ามในการทำโปรแกรม HBOT

ขั้นตอนการรับบริการที่ BLS Surgery Center

ขั้นตอนการรับบริการ โปรแกรม HBOT ที่ BLS
ขั้นตอนการรับบริการ โปรแกรม HBOT ที่ BLS
  1. ตรวจประเมินสุขภาพก่อนทำกับคุณหมอ
  2. เตรียมความพร้อมของร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้า
    • ผู้รับบริการต้องทำการเคลียร์หู เมื่อมีแรงดันขณะอยู่ใน HBOT Chamber
    • ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ
    • ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปภายในเครื่อง
    • หากมีอาการท้องเสีย ไม่สบาย หรือมีโรคประจำตัว ให้แจ้งผู้ดูแลทุกครั้ง
    • รับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊สมาก เช่น น้ำอัดลม
    • หากเป็นโรคเบาหวาน ควรควบคุมค่าน้ำตาลให้ต่ำกว่า 120
    • หากเป็นโรคความดัน ควรรับประทานยาควบคุมอยู่เสมอ
    • ไม่นำสิ่งแปลกปลอมติดตัวเข้าภายในเครื่อง เช่น คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม ทาเล็บ เครื่องประดับ
  3. เข้าห้องอุโมงค์ออกซิเจน (HBOT Chamber)
  4. เริ่มการเพิ่มแรงดันบรรยากาศ จนถึงระดับที่กำหนด เป็นเวลา 30–60 นาที
  5. ลดแรงดันกลับสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันอาการหูอื้อ
  6. คุณหมอประเมินอาการหลังทำ ตรวจเช็กร่างกาย หลังทำสามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ทันที

รวม VDO โปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy ที่ BLS Surgery Center

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม HBOT (HBOT Therapy)

Q : อุโมงค์ออกซิเจนช่วยอะไรได้บ้าง?

A: การเข้าห้องอุโมงค์ออกซิเจน หรือ HBOT Chamber ช่วยเร่งการฟื้นฟูหลังศัลยกรรม ลดบวม ลดอักเสบ และช่วยให้แผลศัลยกรรม หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือด ลดความเสี่ยงของแผลติดเชื้อ ช่วยขับสารพิษบางชนิดออกจากเลือด และยังช่วยลดการเสื่อมของเซลล์เดิม ช่วยในการชะลอวัยอย่างได้ผล

A: การทำโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) ช่วยเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์ให้กับร่างกาย  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและหลอดเลือดใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลหายไว ฟื้นตัวได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถรับบริการร่วมกับการฉายแสง เพื่อลดบวม ช่วยให้แผลหายไวได้ดียิ่งขึ้นได้ที่ BLS

A : แพทย์แนะนำให้ทำประมาณ 3-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการประเมินร่างกายและวัตถุประสงค์ในการรับบริการของคนไข้ หลังทำเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับบริการ ซึ่งการทำต่อเนื่องจะช่วยฟื้นฟูร่างกายและแผลผ่าตัดได้อย่างเต็มที่ โดยแพทย์จะประเมินจำนวนครั้งที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย

A : ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น ผู้รับบริการบางเคส อาจรู้สึกปวดหู หรือหูอื้อ เวียนศีรษะเล็กน้อย ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ปอดเสียหาย หรือภาวะปอดแฟบ เกิดการสะสมของเหลวในปอด หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ การมองเห็นเปลี่ยนไป เช่น ภาวะสายตาสั้น (ซึ่งจะหายได้เองภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์) ภาวะออกซิเจนเป็นพิษ น้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเหล่านี้พบได้น้อย

เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ควรบำบัดไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง และความดันภายในห้อง ต้องน้อยกว่า 3 เท่าของความดันบรรยากาศปกติ

A: โดยทั่วไปการรับบริการโปรแกรม HBOT มีความปลอดภัยสูง หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ อาการที่อาจพบเพียงเล็กน้อย เช่น หูอื้อในช่วงแรก แต่หายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังรับบริการ

A: หากใครกำลังตามหา Hyperbaric Oxygen Therapy ใกล้ฉัน สามารถรับบริการโปรแกรม Hyperbaric Oxygen Therapy ได้ที่ BLS Surgery Center ซึ่งมีเครื่อง HBOT มาตรฐานระดับโรงพยาบาล และแพทย์ดูแลใกล้ชิด ช่วยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด รับบริการได้ทั้งหลังจากผ่าตัดศัลยกรรม หลังปลูกผม หรือต้องการรักษาภาวะอื่นๆ ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการได้ที่ BLS Surgery Center มี 3 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และนครปฐม

สาขาสเตเดียมวัน ให้บริการ ชั้น 1 และชั้น 5 (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)

สาขานครปฐม (คลินิก นครปฐม)

สาขาศาลายา (คลินิก ศาลายา)

บทความที่เกี่ยวข้อง